Lumen (ลูเมน) คือหน่วยวัด ในระบบหน่วยวัดมตรฐาน SI มีตัวย่อว่า lm (แอลเอ็ม) ที่ใช้แสดงปริมาณแสงที่ถูกผลิตได้จากแหล่งกำเนิดแสง เช่น LED หรือ แหล่งกำเนิดแสงประเภทอื่นๆ ย่ิงค่าลูเมนสูง จะหมายถึง สว่างกว่ากว่าค่าลูเมนที่ต่ำกว่า ค่าลูเมน นี้เป็นตัวแปรหนึ่งในการพิจารณาว่า หลอดไฟ หรือ โคมไฟ นั้น มีคุณภาพ มีความคุ้มค่า หรือพูดง่ายๆ ว่า ราคาโคมไฟ หลอดไฟนั้น ถูก หรือ แพงกว่ากัน
เราวัดค่า lumen ได้อย่างไร
ในการวัดค่า lumen ต้องอธิบายได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาตร์ ทีมีคณิตศาตร์เข้ามาช่วยอธิบาย ซึ่ง อาจจะเป็นสิ่งที่เข้าใจยาก แต่หากอธิบายจะอธิบายให้กับผู้ใช้งานทั่วไป ให้เห็นภาพ สามารถอธิบายได้ดังนี้
“ ลูเมน เป็นผลของการวัดค่าการสะท้อนกลับของแสง ที่ถูกกำเนิดมาจากแหล่งกำเนิดแสง (Light Source) ซึ่งถูกจัดวางไว้ที่จุดศูนย์กลางของทรงกลมมาตราฐาน (Intergrating sphere) ตามรูปที่ 1 การวัดแสงที่ถูกสะท้อนกลับมานี้จะถูกนำไปเปรียบเทียบกับ แหล่งกำเนิดแสงมาตราฐาน (แหล่งกำเนิดแสงที่เรารู้ว่ามีปริมาณเท่าไหร่) แล้วเอาผลวัดที่ได้ไปคำนวณค่า Lumen Output ที่ออกมาจากแหล่งกำเนิดแสง”
ลูเมนกับวัตต์ ต่างกันอย่างไร
คุณเป็นหนึ่งหรือเปล่าที่เวลากต้องการ โคมไฟ หลอดไฟ แล้วบอกวัตต์ กับผู้ขาย “ฉันต้องการโคมไฟสปอร์ตไลท์ 100 วัตต์”
คนทั่วไป ไม่รู้จักค่า Lumen จึงไม่แปลกที่มักจะได้ยินคำว่า มีหลอด 18 วัตต์ไหม หรือฉันต้องการสปอร์ตไลท์ 100 วัตต์ แล้วคำพูดเหล่านี้มีความหมายว่าอย่างไร
ก่อนจะอธิบายความหมายของคำพูดดังกล่าว เรามาทำความรู้จักว่า วัตต์ หมายถึงอะไรกันก่อน
วัตต์ (Watt) คือหน่วยวัด ในระบบหน่วยวัดมาตรฐาน SI มีตัวย่อว่า W เป็นหน่วยที่ใช้แสดงปริมาณของพลังงาน โดย วัตต์เป็นหน่วยหลักที่ใช้ในการคำนวณค่าไฟฟ้า โดย ค่าไฟฟ้า 1หน่วย มีค่าเท่ากับ
1 หน่วยค่าไฟฟ้า = 1000 W / Hr ( 1000 วัตต์ ต่อ 1 ชั่วโมง)
โดยมีสูตรคำนวณค่าไฟฟ้าอย่างง่ายดังนี้
การคิดค่าไฟที่ใช้ = (กำลังวัตต์ของโคมไฟ / 1000) x จำนวนชั่วโมงการเปิดใช้งาน x ค่าไฟฟ้าต่อหน่วย
และหากสมมุติค่าไฟอยู่ที่หน่วยละ 5 บาท นั้นหมายความว่า หากคุณใช้โคมไฟสปอร์ตไลท์ 100 วัตต์ 1 โคม โดยเปิด 10 ชั่วโมงต่อวัน และเปิดทุกวัน (365 วันต่อปี) คุณจะต้องจ่ายค่าไฟฟ้า เท่ากับ
(100 / 1000) x 10 x 5 = 5 บาท ต่อวัน หรือ 1825 บาทต่อปี (365 วัน)
ดังนั้นคำพูดที่ว่า ฉันต้องการโคมไฟสปอร์ตไลท์ 100 วัตต์ นั้นหมายความว่า คุณมีความยินดี ต้องการจ่ายค่าไฟฟ้าปีละ 1,825 บาท ต่อหนึ่งโคม
แล้ว Lumen เกี่ยวอะไรกับค่าไฟต่อหน่วย
ผมมั่นใจว่า จุดประสงค์หลัก ในการใช้งาน โคมไฟ หรือ หลอดไฟ คือคุณต้องการความสว่าง ในปริมาณที่เหมาะสมกับการมองเห็น และถ้า lumen คือปริมาณ ที่แหล่งกำเนิดแสง หรือพูดง่ายๆ ว่า ปริมาณความสว่างที่โคมไฟ หลอดไฟ จะให้คุณได้ นั่น มีความสว่างมากน้อยเท่าไหร่ นั้นเอง
หากตอนนี้คุณกำลัง เลือกซื้อ โคมไฟ หรือ หลอดไฟ ที่มีค่าลูเมนเท่ากัน อยุ่ หัวข้อถัดไป คือหน่วย ที่มืออาชีพ ด้านการประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้า ให้ลดลง เค้าใช้กัน
ลูเมนต่อวัตต์ (lm/W) ประสิทธิภาพ ที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้า
ประสิทธิภาพ ซึ่งมีหน่วยเป็น lm/W คือ ตัวบ่งบอกว่า โคมไฟ หรือ หลอดไฟ นั้น มีทั้งความประหยัด และให้ปริมาณแสงมากน้อยเพียงใด โดยมีสูตรคำนวณ ที่ง่าย แสนง่ายดังนี้
ประสิทธิภาพของโคมไฟ หรือ หลอดไฟ = ค่าลูเมน / กำลังไฟฟ้า (วัตต์)
ดังนั้น จากตัวอย่างในหัวข้อก่อนหน้านี แล้วค่าลูเมน ที่ใช้โคมไฟสปอร์ตไลท์ 100 วัตต์ ที่มีค่าลูเมน 10,000 ลูเมน นั้นหมายความว่า โคมไฟนั้นมีประสิทธิภาพ 100 ลูเมนต่อวัตต์ โดยคิดจาก
100 / 10,000 = 1000 ลูเมนต่อวัตต์ (lm/W)
แต่หากคุณ มีตัวเลือก โคมไฟ 80 วัตต์ แต่มีค่าลูเมน 10,000 ลูเมน เท่ากัน นั้นหมายความว่า โคม 80W นี้สามารถให้ความสว่างเท่ากับโคม 100 วัตต์ ก่อนหน้านี้ โดยโคม 80 วัตต์นี้มีประสิทธิภาพ เท่ากับ
10,000 / 80 = 125 ลูเมน ต่อ วัตต์
นั้นหมายความว่า ถ้าคุณใช้ โคม 80W ที่มีค่าลูเมนเท่ากับโคม 100 วัตต์ เนื่องจากทั้งคู่มีค่าลูเมนเท่ากันคือ 10,000 ลูเมน นั้นหมายความว่า คุณต้องจ่ายค่าไฟฟ้า ในการใช้งานโคม 80วัตต์ นี้เท่ากับ
(80 / 1000 ) x 10 x 5 = 4 บาท ต่อ วัน หรือ 1,460 บาทต่อปี ซึ่งจะทำให้คุณประหยัดไปได้ ปีละ 365 บาทต่อปี หรือประหยัดไปได้ 20% ต่อปี ตามตารางเปรีบเทียบด้านล่าง
ดังนั้น ต่อไปหากคุณ กำลังมองหา โคมไฟคุณต้องดูที่ ประสิทธิภาพ หรือลูเมนต่อวัตต์ (lm/W) เป็นตัวเปรียบเทียบด้วย
สรุป
ค่า Lumen และค่าประสิทธิภาพ คือปัจจัยหลักในการให้ทั้งค่าสว่างที่พอเพียงต่อการใช้งาน และความคุ้มค่า ดังนั้น หากจุดประสงค์ ในการใช้โคมไฟ หรือ หลอดไฟ คือต้องการความสว่างที่เพียงพอ และประหยัดค่าไฟฟ้า ให้คุณ ท่องจำ 4 ข้อนี้ เพื่อเลือกซื้อโคมไฟ หรือหลอดไฟที่คุ้มค่าที่สุด
- วัตต์ สูง จ่ายค่าไฟแพง
- ลูเมน สูงกว่า สว่างมากกว่า
- ลูเมน เท่ากัน สว่างเท่ากัน
- ลูเมน เท่ากัน ประสิทธิภาพสูงกว่า จ่ายค่าไฟน้อยกว่า